ผมเดินข้าม ถนน ราชดำริ ลัดเลาะตามฟุตบาทข้างถนนพระราม 4 สายตาแหงนมองตึก ใหญ่โตที่ตั้งตะหง่านย่าน สีลม ผู้คนเดินกันขวักไขว่ ผมจำได้ว่า เมื่อก่อนที่เริ่ม ขายของใหม่ๆ ผมเคยขับรถผ่านถนนพระราม 4 เส้นนี้แบบ งก งก เงิ่น เงิ่น เพื่อไปซื้อของที่สำเพ็งไปขาย ผมโดนตำรวจจับบ่อยครั้ง เพราะเข้าผิดเลน เมื่อก่อนผมกลัวมาก กลัวที่จะต้องขับรถเข้ามาในกรุงเทพฯ ถ้าตัดสินใจพลาดนิดเดียวอาจจะโดนชนท้ายก็ได้...ขับรถในกรุงเทพฯต้องหูไว ตาไว เรื่องมารยาท ไม่ต้องคำนึงถึงกันเลย...
เดินเพลิน มองอะไร เพลิน เพลิน พอดีเหลือบไปเห็น สภากาชาดไทย พอเดินไปอีกหน่อย เห็นป้าย สถานเสาวภา ...ก็นึกขึ้นได้ว่า ที่นี่มีการแสดง งู ด้วยนี่นาและยังเป็นหน่วยงานที่ผลิตเซรุ่ม ป้องกันพิษงูชนิดต่างๆด้วย...ผมเดินเข้าไปถาม รปภ.ที่อยู่ในป้อม หน้า สถานเสาวภา ว่าวันนี้มีการแสดงงูหรือเปล่า..."กำลังแสดงอยู่เลยครับ...เดินเข้าไปด้านในหลังตึกนี่เลยครับ"..รปภ. บอกพร้อมกับชี้มือกำกับเส้นทาง...
ผมเดินลัดเลาะผ่านอาคารเก่าแก่ ของสถานเสาวภา หูได้ยินเสียงบรรยาย เกี่ยวกับงูผ่านเครื่องขยายเสียงแว่วมาแต่ไกล เอแล้วเขาซื้อตั๋ว เข้าไปชมกันตรงไหนกัน...ผมถามคนขายของที่ระลึกด้านหน้าจุดแสดง งู ว่าจะ ซื้อตั๋วเข้าไปชม ได้ที่ไหน
คนขายของที่ระลึกบอกว่า "ฟรีค่ะ...เดินเข้าไปได้เลย" อ้าวฟรี เหรอ นึกว่าเสียเงิน ผมมองเห็นคน นั่งเต็มอัฐจรรย์ ตรงบริเวณที่โชว์งูแน่นไปหมด ทั้ง ไทย และต่างชาติ เดินเข้าไปต้องตกใจเดินถอยหลังเล็กน้อย เมื่อเห็น งูจงอาง ตัวใหญ่ หันหัวเลื้อยตรงมาทางผมพอดี...แต่ดีที่เจ้าหน้าที่คว้าหางไว้ซะก่อน
ผมยืนดูข้างล่าง บนพื้น อยู่ในระนาบเดียวกันกับการโชว์ งู ก็นึกในใจ เกิดงูพุ่งพรวด มาทางผมจะทำยังไง...การโชว์งู ที่สถานเสาวภา จะไม่เหมือนการโชว์ทั่วไป ตามสวนงูที่พัทยา หรือที่หมู่บ้านงู ที่ขอนแก่น แต่จะเน้น ให้ความรู้กับผู้ที่มาชมมากกว่า อาจารย์ผู้บรรยาย จะอธิบายถึงประโยชน์ ของงูที่มีต่อ ระบบนิเวศน์อย่างไร? และพูดถึง พิษ ความร้ายแรงของพิษงูแต่ละชนิด...
อาจารย์ ที่อธิบาย บอกว่างูเป็นสัตว์ คุ้มครอง ครับ ใครที่จับงู จำหน่าย งู มีความผิดทางกฎหมายเช่นกัน
ตัวแรกที่นำออกมาโชว์ ตอนที่ผมเดินเข้าไปคือ งูจงอาง และ ตัวที่สองคือ งูเห่า ครับ
งูจงอาง ตัวเป็นๆ ตัวใหญ่น่ากลัว... เคยอ่านเรื่อง เพชรพระอุมา งูจงอาง กัดควาย เทียมเกวียนตาย กลุ่มติดตามหา นาย ชด ประชากร และ ลูกน้องพรานใหญ่ รพินทร์ ไพรวัลย์ ต่อสู้กับจงอาง สองผัวเมียอย่างเมามัน...เหตุเพราะเดินทับเส้นทางของเขา...อยากรู้เรื่อง งูจงอางโดยละเอียด ในลิ้งนี่เลยครับ "ชายสามหยด" อธิบายเชิงวิชาการ ไม่เป็นดอกเด้อ... หุ หุ
เจ้าหน้าที่ เอา งูจงอาง ไปเก็บ ในกรง แล้วนำ งูเห่า ออกมา เอ๊ะ...แล้วทำไมถึง งูเห่า? งูอย่างอื่นไม่ได้เหรอ? คำตอบก็คือว่า
งูเห่า ก็เพราะว่ามันทำเสียงขู่ได้เวลาที่มันอันตราย เสียงดังฟู่ๆ ไม่ใช่โฮ่งๆนะครับ
ส่วนเฒ่าหัวงู ชายหัวงู มาจากอากัปกิริยาส่ายหัวไปมาเวลาที่เจอสาวๆจนอดใจไม่ไหว (เกี่ยวกับงูมั๊ยเนี้ย...) เอ่อ...แล้วผู้หญิงเจ้าชู้ เรียกหัวงูบ้างได้มั๊ย 555+ (ล้อเล่น... ขำ ขำ นะครับคุณผู้หญิง)
เสร็จ จากโชว์ เฒ่าหัวงู...เอ้ย งูเห่า เจ้าหน้าที่ ไป จับ งูสามเหลี่ยม ออกมาโชว์ งูสามเหลี่ยม จะออกหากินในเวลากลางคืนเขาอธิบายว่างั้น...ยิ่งเวลาฝนตกใหม่ๆ กบเขียดร้องระงมเขาชอบนัก งูสามเหลี่ยม ของแท้ ต้องหาง กุดๆ ทู่ๆ ถ้าหางแหลมๆ จะถือว่าเป็น งูสามเหลี่ยมปลอม
ตัวต่อไปที่เอามาโชว์ คือ งูปล้องทอง หลายคนเข้าใจว่างูชนิดนี้คือ งูสามเหลี่ยม บ่ แม้นเด้อ...สิบอกให๋... เห็นหรือเปล่าว่างูปล้องทองหางจะแหลมต่างกันกับหางของงูสามเหลี่ยม
พอได้อ่านความรู้ทางวิชาการ จะรู้เลยครับว่า งูชนิดนี้ จะอยู่แถวฝั่งทะเลภาคใต้เท่านั้นโดดเฉพาะ นครศรีธรรมราช
ตัวต่อไป งูเขียวหางไหม้ อาจารย์ที่ยืนอธิบายเขามีคำถามครับว่า...ท่านทราบมั๊ยครับว่า งูเขียวหางไหม้ ออกลูกเป็น อะไร? อยากรู้คำตอบผมจะเฉลย ตอนท้ายครับ...
ผมก็พึ่ง ได้ความรู้นี่เองว่า งูเห่าตาลาน หรือ งูสิง คืองูชนิดเดียวกัน ก็ไอ้เจ้างูสิงตัวยาวๆนี้หล่ะ...ที่เข้าไปหาหนูกินในสวนของผม...พอผมก้มดายหญ้าอยู่ดีๆไปเจอเขาเข้า ตกใจ!!! ทั้งงูและคน ต่างไปคนละทิศ ละทาง งูก็ตกใจผม ผมก็ตกใจงู...ถึงไม่มีพิษก็เหอะ ไม่เอาด้วยหรอกนะ...ดูเผินๆ ก็เหมือน งูจงอางเหมือนกัน แตหัวจะเล็กกว่า...กลางลำตัวจะอ้วนป้อม
นี่ถ้า...คน อิสาน บ้านผมเจอไม่ได้เลยนะ งูสิง นี่โดนจับมากินหมดแหละ เขาว่าต้มใส่ใบมะขามอร่อย
"ขอบอกไว้ก่อนเด้อพี่น้อง...ซาว อิสาน บ้านเฮา งูสิง เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เด้อครับ ผู้ใด๋...จับมากิน ถูกทางการจับแล้วก็ถูก ปรับเงินเด้อ... เพราะงูสิง มันช่วยจับหนู ในไร่ ในนา ที่ไปกินข้าว กินผัก ที่พี่น้องปลูก ปล่อยมันช่วยเฮา ดีกว่าครับ"
จากงูสิง เป็นงูแสงอาทิตย์
งูแสงอาทิตย์ เป็นงูชนิดเดียว ที่มีปอดสองข้าง แต่งูชนิดอื่น มีปอดข้างเดียวครับ สนใจข้อมูลเพิ่มเติมคลิก ได้เลยครับ http://www.siamreptile.com/webboard/webboard_show.php?id=1718
ตัวสุดท้าย...งูทางมะพร้าว
งูทางมะพร้าว
ลักษณะทั่วไป
เป็นงูบกที่มีสีและลวดลายงดงาม ลำตัวยาวเรียว เลื้อยเร็วว่องไวปราดเปรียว พุ่งตัวจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งเก่ง สีพื้นลำตัวจากคอถึง
กลางตัวเป็นสีเหลือง มีลายดำเลือนๆ เป็นปล้องและมีลายดำเป็นเส้นยาวไปตามลำตัว ส่วนท่อนหางจากกลางลำตัวไปเป็นสีส้มหรือน้ำตาลแดงไม่มีลาย และส่วนท้องมีสีเหลือง
เป็นงูบกที่มีสีและลวดลายงดงาม ลำตัวยาวเรียว เลื้อยเร็วว่องไวปราดเปรียว พุ่งตัวจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งเก่ง สีพื้นลำตัวจากคอถึง
กลางตัวเป็นสีเหลือง มีลายดำเลือนๆ เป็นปล้องและมีลายดำเป็นเส้นยาวไปตามลำตัว ส่วนท่อนหางจากกลางลำตัวไปเป็นสีส้มหรือน้ำตาลแดงไม่มีลาย และส่วนท้องมีสีเหลือง
ถิ่นอาศัย, อาหาร
พบทั่วไปในประเทศไทย
งูทางมะพร้าวลายขีดกินหนู กบ นก กระรอก กระแต
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
เป็นงูออกหากินในเวลากลางวันตามป่าหญ้ารกๆ และบนต้นไม้ บางทีพบตามยุ้งข้าว บนบ้าน ปกติไม่ดุ ถ้าตกใจและเข้าใกล้จะแว้งกัด เวลาขู่จะพองหนังคออ้าปากดูน่ากลัว เป็นงูไม่มีพิษ
พบทั่วไปในประเทศไทย
งูทางมะพร้าวลายขีดกินหนู กบ นก กระรอก กระแต
พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
เป็นงูออกหากินในเวลากลางวันตามป่าหญ้ารกๆ และบนต้นไม้ บางทีพบตามยุ้งข้าว บนบ้าน ปกติไม่ดุ ถ้าตกใจและเข้าใกล้จะแว้งกัด เวลาขู่จะพองหนังคออ้าปากดูน่ากลัว เป็นงูไม่มีพิษ
สถานภาพปัจจุบัน
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
เป็นอย่างไรบ้างครับ "ชายสามหยด" พามาชมงู ที่ สถานเสาวภา ทิปพาลูกสาวไปสอบ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ได้เรื่องมาเล่าเยอะเลยครับ...
อ่ะ...อ่ะ...เกือบลืมเฉลย ว่า งูเขียวหางไหม้ ออกลูกเป็นอะไร?
คำตอบครับ....(ทำปากเหมือนคุณปัญญา...)...คำตอบที่ถูกต้องคือออ...ออกลูกเป็น งูเขียวหางไหม้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น