วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ศาราชี...ที่สีชัง (ตอนที่ 2 สะพานอัษฎางค์ พิพิธภัณฑ์ พระจุฑาธุชราชฐานเกาะสีชัง)

      ผมขึ้นถึงท่าเทียบเรือ...เกาะสีชัง เรียบร้อยดีแล้วก็เดินไปเช่า มอเตอร์ไซด์ 1 วัน 250 บาทพร้อมน้ำมันเต็มถัง ผมได้ไปขอแผนที่ในจุดบริการนักท่องเที่ยวที่ป้าแขกเจ้าของรถมอเตอร์ไซด์เช่า บอกไว้...
เมื่อผมกางแผนที่ออกดูผมเลือกที่จะ...ขับมอเตอร์ไซด์ เลี้ยวซ้าย ไปตามถนนที่เป็นถนนคอนกรีต สะดวก สบาย ตามถนนมีร้านรวง เกสเฮ้าส์ โฮมสเตร์ และร้านอาหารอยู่เป็นระยะ...ตามริมถนน จะเห็นต้นลีลาวดี และต้นมะขาม ต้นใหญ่ๆเรียงราย ตลอดเส้นทาง...
      เกาะสีชัง...เป็นเกาะขนาดใหญ่ครับ มีเนื้อที่โดยรวมประมาณ 25.61 ตารางกิโลเมตร มีกาตั้งถิ่นฐานของชุมชนมานานนับร้อยปี มีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่งดงาม ตลอดปูชนียสถาน ปูชนียวัตถุ มากมายฯลฯ

                                                                 สะพานอัษฎางค์


     ผมขับมอเตอร์ไซด์...ชมบ้านเรือน ร้านรวงต่างๆได้ไม่นาน ก็เจอกับประตูทางเข้า  พระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง  ผมมองเห็นสะพาน อัษฎางค์  ที่ริมหาดลิบๆแล้วหล่ะครับ...

แต่ก่อนจะเข้าไปภายใน ทางด้านขวามือเหมือนมีห้อง จัดแสดงอะไร สักอย่างเกี่ยวกับสัตว์ทะเล เลยจอดรถมอเตอร์ไซด์ เดินลงไปดูซะหน่อยให้หายสงสัย...


"สวัสดีครับ...ด้านในมีอะไรครับ?...ขอเข้าไปชมได้หรือเปล่าครับ?...และต้องเสียตังค์ค่าเข้าหรือเปล่าครับ?" ผมถามเจ้าหน้าที่ ที่นั่งอยู่ด้านหน้า...

"เข้าไปได้เลยค่ะ...ฟรีค่ะ...ด้านในจัดแสดงเกี่ยวกับสัตว์น้ำประจำถิ่นค่ะ..."






ผมเป็นนักท่องเที่ยวคนแรกและคนเดียว...ที่เดิน เข้าไปชม "ชลทัศนสถาน" ที่อยู่ในเขต พระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง ที่นี่เป็นตึก ไม่ใหญ่มากครับ เป็นสองชั้น เดินขึ้นไปคนเดียวก็รู้สึกเสียวๆเหมือนกัน เพราะดันไปนึกถึง เรื่องเล่า ของนายตำรวจ คนที่นั่งเรือมาด้วยกัน ก็รู้สึกขนลุกเหมือนกันแหละครับ ไม่น่าเลยพี่ตำรวจที่รัก...



                        ด้านนอกอาคารมีโครงกระดูก โลมาเผือกหรือโลมาหลังค่อมครับ



               ด้านในอาคารจัดแสดงประวัติของ พระจุฑาธุชราชฐานเกาะสีชัง



                                                          
                                                       ด้านในอาคารชั้นล่าง


   ผมเดินเข้าไปด้านในอาคารชั้นล่าง...ด้วยความเงียบเพราะมีผมอยู่คนเดียว พอแหงนขึ้นไปข้างบนตกใจหมดเลยนึกว่าตัวอะไรจะกระโดดมาตะคุบที่แท้ก็ นักประดาน้ำนี่เอง...
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น...ผมเลยเดินขึ้นไปบนชั้นสอง...มีการจัดแสดงปะการัง ชนิดต่าง และสาหร่ายชนิดต่างๆ ก็ดูเงียบๆดี นึกถึงตอนที่ผมไป เดินชมห้องที่ดองอาจารย์ใหญ่ที่  ร.พ.ศิริราช วันนั้นขึ้นไปก็ไม่มีเจ้าหน้าที่แบบนี้แหละ อูย..รีบลงมาซะ...ฉี่แทบราด วันนี้ก็บรรยากาศเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ไม่มีอาจารย์ใหญ่นอนให้เห็น แต่มีคำบอกเล่าของคุณพี่ตำรวจนี่หน่ะสิ...ทำให้ใจฝ่อเหมือนกัน...








                                                 อาคารจัดแสดงพืชและสัตว์น้ำ "ชลทัศนสถาน"


    ผมเดินชมบนอาคาร สักพักก็ต้องรีบลงมา เพราะอยู่คนเดียว มันวังเวงยังไงชอบกล...เอาแค่นี้ครับพอหอมปาก หอมคอ ...จิตใจไม่ค่อยดี ไปชม พระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง กันดีกว่าครับ...


   ผมเดินออกมาจากอาคาร ชลทัศนสถาน ก็มองเห็น สะพาน อัษฎางค์ อยู่ลิบๆโน้นแล้วหล่ะครับ...ไปชมข้างในกันต่อดีกว่าครับ


                                                       โน้นครับ...สะพาน อัษฎางค์


     วันนี้...ที่เกาะสีชังอากาศดีมากครับ...ไม่เหมือนเมื่อเช้าตอนผมนั่งเรือมานึกว่าฝนจะตกซะอีก...ท้องฟ้าสดใส เหมาะกับการถ่ายภาพมากครับ...


    ผมขับมอเตอร์ไซด์เข้ามาเรื่อยและเก็บ ภาพความสวยงาม เป็นระยะครับ






      ผมขับมอเตอร์ไซด์เข้าไป ไม่ถึงสะพานหรอกครับ เจ้าหน้าที่...ให้จอดไว้ด้านนอกตรงป้อม ผมต้องเดินเท้าเข้าไปชมความงามด้านในเองครับ...มองซ้าย มองขวา ไม่เห็นมีนักท่องเที่ยวเลยครับวันนี้ ...เห็นแต่น้องผู้ชายสองคน สะพายกล้อง ตัวโตเลนส์ใหญ่ๆสวยงาม คงมาเก็บภาพสวยๆหน่ะครับ...มาทราบทีหลังน้องเขามาถ่ายภาพสถานที่โบราณ ไปประกวดที่ จ.ชลบุรีครับ...


            สะพาน อัษฎางค์ อยู่ในเขต "พระจุฑาธุชราชฐาน" ครับ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ เป็นพระราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะตั้งอยู่บริเวณแหลมวังทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสีชัง สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๓๒ โน้นแหนะครับ...เนื้อที่ในส่วนพระราชฐาน (ประมาณ ๒๑๙ ไร่)...มีสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่บนชั้นเนินเขาที่ต่ำลดหลั่นกันอย่างงดงามที่เดียวครับ...  ประกอบด้วยพระที่นั่ง ๔ หลัง พระตำหนัก ๑๔ หลัง ศาลา ๑ หลัง มีสวนดอกไม้ สระน้ำ ธารน้ำ น้ำพุ และหน้าผา ซึ่งตกแต่งตามลักษณะวนอุทยานในพระราชวังของประเทศตะวันตกครับ...





                                                               สะพานอัษฎางค์





                                       ภาพสะพาน "อัษฎางค์" ทำ ขาวดำ ย้อนยุครับ


พิพิธภัณฑ์ "พระจุฑาธุชราชฐาน" ยังมีที่เข้าไปชมอีกมากมายครับ...เดียวผมจะพาเข้าไปเที่ยว ต่อใน ตอนที่ 3 ...ตอนนี้ขอจบที่...สะพานอัษฎางค์ ครับ  "เกาะสัชัง" ยังมีวิวสวยมาฝากอีกเยอะเลยครับ


ขอขอบคุณ เพลง "สีชัง"  ขับร้องโดย กุ้ง กิตติคุณ เชียรสงค์

ศาราชี...ที่สีชัง (ตอนที่ 1 นั่งเรือไปเที่ยวเกาะสีชัง)

ถิ่นสุขกายสุขด้วย             ถิ่นดี
จิตรโปร่งปราศราคี           ชุ่มชื้น
สองสุขแห่งชาวสี-            ชังเกาะ นี้แฮ
อายุย่อมยืนพื้น                  แต่ร้อยเรือนริม


พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว






 ผมหยิบแผ่นพับ  ของ พิพิธภัณฑ์ พระจุฑาธุราชฐาน เกาะสีชัง  และได้อ่าน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในบทข้างต้นทางด้านหลังแผ่นพับใบนั้น ซึ่งในตอนแรกแผ่นพับนี้อยู่ในหนังสือท่องเที่ยวเล่มหนึ่งที่ผมกำลังหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน...
ผมเปิดดูด้านในของแผ่นพับนั้น ได้เห็นภาพและได้อ่านประวัติความเป็นมาของ พิพิธภัณฑ์ ก็มีความรู้สึกว่าอยากจะไปชม อีกอย่างผมยังไม่เคยไปเที่ยวที่ เกาะสีชัง เลยทั้งๆที่นั่งเรือข้ามเกาะไปก็ไม่ไกลมาก ไปเที่ยวตอนเช้า ตอนเย็นกลับมาขายของที่ ตลาดไนท์สแควร์ศรีราชา ก็ยังทัน

เช้าวันศุกร์ที่ผ่านมาผมไปกางโครงเหล็กขายของ ที่ ตลาดนัดไนท์สแควร์ศรีราชา ในตอนเช้า 7 โมงกว่าๆ...  และผมได้ตั้งใจไว้แล้วว่ากางโครงเสร็จ ผมจะไปเที่ยว เกาะสีชัง ไปชมพิพิธภัณฑ์ พระจุฑาธุราชฐาน และไปเที่ยวชมเกาะให้ทั่ว...


เมื่อผมกางโครงเหล็กที่ตลาดนัดเสร็จ ผมเอารถจอดรถ ไว้บริเวณ ตลาดนัดที่ผมขายของและได้เรียกมอเตอร์ไซด์รับจ้างบริเวณนั้นให้ไปส่งที่ท่าเทียบเรือไป เกาะสีชัง ซึ่งอยู่บริเวณบริเวณเกาะลอย พอผมไปถึงก็ไปซื้อตั๋ว ข้ามไปยังเกาะสีชังราคา 50 บาท วันนี้เป็นวันศุกร์ นักท่องเที่ยวที่ข้ามไปยังเกาะสีชังเลยดูบางตา จะมีก็เด็กนักเรียนอยู่กลุ่มหนึ่งที่ไปเที่ยวกัน นอกนั้นก็เป็นคนที่ทำงานบนเกาะและชาวเกาะสีชังเองที่ข้ามฝั่งมาซื้อของ...เรือออก 9 โมงเช้า...ผมเหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือเวลายังพอมีเหลือเลยเดินย้อนกับมายังเกาะลอย เพื่อไปสั่งกาแฟสดกินสักแก้ว...



                                     ท่าเทียบเรือ ไปและกลับ บริเวณเกาะลอย ศรีราชา







    ผมได้กาแฟเอสเปสโซ่...ที่ชาวพม่าปะแป้งหน้าขาวชงให้ และใส่ในแก้วกระดาษสีขาวพร้อมช้อนสีขาวเล็กๆด้ามยาว  ถือเดินตามสะพานกลับไปยังเรือที่จะไปเกาะสีชังจอดอยู่ แต่เอ๊ะ...อยู่ บนฟุตบาทข้างสะพานเขายืนมุงอะไรกันอยู่...ผมนึกในใจ...ด้วยความสงสัยผมจึงเดินเข้าไปดู ก็มองเห็นคนที่อยู่ในกระชังข้างล่างสะพาน กำลังสาระวน กับการจับอะไรอยู่...อ๋อ...เป็นกระชังเลี้ยงปลากระพงนั้นเอง พอดีมีคนมารอซื้อก็เลยจับขึ้นมาชั่งกิโลขาย


                           จับปลากระพง ในกระชังข้างสะพานท่าเรือไปเกาะสีชัง


     ผมยืนดู...เขาซื้อขายปลากระพง ข้างสะพาน พร้อมกับจิบกาแฟ ที่รสชาดเข้มข้น ขมปี๋ จากแก้วกระดาษ พร้อมกับทำหน้าตาเหย๋เก...เหมือนดั่งสามล้อกรึบเหล้าขาว... "กึ๋ย!!!...ทำไมนังพม่ารามัญ ถึงชงกาแฟขมเหลือเกินว่ะ..." ผมนึกในใจ พร้อมหันหน้าเหย๋ ๆ มองไปที่ร้านกาแฟที่ไปซื้อมา...เสียงหวูด...หรือแตร...ของเรือโดยสารที่จะไปเกาะสีชัง ดังขึ้น หมายความว่าได้เวลาที่เรือเที่ยว 9 โมงเช้าจะออกจากท่าแล้ว...ผมรีบเดินพร้อมกับถือถ้วยกาแฟ...รสชาดขมถ้วยนั้นไปด้วย...ผมขึ้นเรือไปนั่งตอนท้ายสุดของเรือ...เพื่อจะได้ถ่ายรูปบรรยากาศภายในเรือได้ถนัด
    ผู้โดยสารเริ่มทะยอยขึ้นเรือมาเรื่อยๆ ...แต่ไม่ถึงกับเต็มเรือ และในจำนวน นั้นมีนายตำรวจซึ่งน่าจะเป็นระดับสารวัตรถือถ้วยกาแฟพาสติก หรูกว่าผมนิดนึงขึ้นมานั่งด้านหน้าของผม...

                                                       ผู้โดยสารเริ่มทะยอยขึ้นเรือ


เมื่อผู้โดยสารขึ้นมาหมดแล้วเรือก็เริ่มออกจากท่าเทียบเรือ...




                                          เรือเริ่มออกจากท่าเทียบเรือมุ่งหน้าสู่เกาะสีชัง


วันนี้คลื่นค่อนข้างสูง...และมีเมฆฝนบ้างปะปราย...แต่ก็มีแค่บริเวณใกล้ชายฝั่งเท่านั้นเท่าที่ผมมองเห็น...เรือเริ่มโยกไปโยกไปมาตามคลื่นที่สูงบ้างเตี้ยงบ้างตามจังหวะของมัน

ผมมองไปด้านหน้าเห็นนายตำรวจมองมาที่ผมและยิ้มให้
"น้องใช้กล้องรุ่นไหนเหรอ?..." นายตำรวจเปิดฉากสนทนา ซึ่งในทีแรกผมว่าจะงีบสักหน่อย
" Nikon N 70s ครับ...ตกรุ่นแล้วหล่ะพี่ รุ่นใหม่ๆทุกวันนี้ถ่ายวีดีโอได้ด้วย และราคาก็ไม่แพงเหมือนเมื่อก่อน..." ผมคุยและออกตัวเรื่องกล้องที่ตกรุ่นของผม
"เมื่อก่อนพี่เปิดร้านถ่ายรูป...ลงเครื่องของโกดัก ขาดทุนไปเป็นล้าน...เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไป การถ่ายภาพวิวัฒนาการขึ้น........" นายตำรวจคุยยาว เรื่องการถ่ายภาพ ทั้งเรื่องการทำภาพเชิงซ้อนในคดีต่างๆให้ผมฟัง และเรื่องเคยถ่ายภาพนู๊ด...ก็มันดีเหมือนกันครับผมฟังไปและก็ถ่ายภาพไปด้วย...




                             ภาพเรือขนสินค้า ที่ทอดสมอรอนำสินลงหรือรับ...ที่ท่าเรือแหลมฉบัง


"น้องไปเที่ยวเหรอ..." นายตำรวจยังชวนผมสนทนาต่อ
"ครับ...ผมเป็นพ่อค้า ที่ตลาดนัด ไนท์แสควร์ศรีราชานี่เองครับ...ยังไม่เคยไปเที่ยวเลยครับ"
"ตรง..วังเก่า...ผีดุ...นะลูกน้องพี่เจอกันประจำและเห็นกันบ่อยๆ"...ผมไม่ทราบนายตำรวจ จะพูดตลกหรือจะอำผมเล่นหรือเปล่า แต่ผมก็ได้แต่ยิ้มๆ  


ไม่นานนายตำรวจ ท่านนี้ก็หันไปคุย กับกลุ่มนักเรียนต่อ...ผมเลยได้งีบนิดนึง



                                      เรือผ่านเกาะปรงและแวะส่งของ เกาะขามใหญ่


ผมงีบไม่นาน...เรือก็ผ่านเข้ามาถึง เกาะปรง ที่มี กังหันและเตาเผาอะไรไม่รู้ขนาดใหญ่ ผมว่าน่าจะเป็นเตาเผาขยะ และก็แวะส่งของ ที่ เกาะขามใหญ่ 



                                           เกาะสีชังมองจากด้านเกาะขามใหญ่


 ถึงแล้วครับ...เกาะสีชัง หรือหมู่เกาะสีชัง...ที่ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลอำเภอศรีราชา 12 กิโลเมตร


ที่เรียกว่าหมู่เกาะสีชังก็เพราะว่า...เกาะสีชังมีเกาะบริวารน้อยใหญ่อีก 8 เกาะด้วยกันครับ
คือ 
เกาะยายท้าว 
เกาะค้างคาว
เกาะท้าวยายหมื่น 
เกาะขามใหญ่
เกาะขามน้อย
เกาะสัมปะยื้อ
เกาะปรง
และเกาะร้านดอกไม้




ผมก้าวขึ้นสู่...ท่าเทียบเรือเกาะสีชัง เป็นครั้งแรกในชีวิตครับ แต่ผมก็พอจะทราบครับว่าต้องทำอย่างไรต่อ เมื่อมาถึงเกาะ เพราะผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับ...การท่องเที่ยว เกาะสีชังมาบ้างผมเดินออกมาเจอกับ มอเตอร์ไซด์รับจ้างที่จอดเรียงราย
"นั่งมอเตอร์ไซด์...เที่ยวชมรอบเกาะมั๊ยครับพี่" พี่ๆกลุ่มมอเตอร์ไซด์ ร้องถามเมื่อผมเดินตรงเข้ามา
"หรือพี่จะนั่งรถสกายแล็ปดีครับ...พาไปทุกที่เหมาได้ทั้งวัีน..." กลุ่ม พี่ๆ รถสกายแล๊ป พูดขึ้นบ้าง
"ผมอยากจะเช่า...มอเตอร์ไซด์ ขับเองครับพี่...มีหรือเปล่าครับ"ผมร้องถามกลุ่มพี่ๆ มอเตอร์ไซด์
"ด้านโน้นเลยครับ..." พร้อมกับชี้มือบอก
ผมเดินเข้าไป ยังมอเตอร์ไซด์เช่าที่ จอดเรียงรายเป็นคิวเหมือนกัน วันนี้ผมได้คิวของ ป้าแขก 
"จะเช่า วันเดียวหรือค้างคืน จ๊ะ..." ป้าแขกถามผม
"วันเดียวครับป้า...เท่าไหร่ครับ"
"...250 บาทจ้ะ...น้ำมันเติมให้เต็มถังแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไร...โทรหาเบอร์ นี้เลยนะ..."
"ครับป้า..."
"เอ่อ..ถ้าตอนจะกลับเวลาเอารถมาคืน...ให้ไปจอดด้านโน้น...เอากุญแจไว้ในรถนั้แหละเดี๋ยวป้าไปเอาเอง..." ป้าแขกกำชับอีกครั้ง พร้อมกับชี้มือบอกที่จอดรถ






"ป้าแขก...มีแผนที่ให้ผมบ้างหรือเปล่าครับ..." ผมไม่ลืมที่จะขอแผนที่เกาะสีชังเพื่อจะได้ขับมอเตอร์ไซด์เที่ยวตามจุดต่างๆ ได้สะดวก
"ไปขอที่ป้อม...โน้น...เลยจ้ะ..." ป้าบอกพร้อมกับชี้มือให้ไปขอแผนที่ ที่จุดบริการนักท่องเที่ยว
ผมขับมอเตอร์ไซด์...ไปรับแผนที่ ที่จุดบริการนักท่องเที่ยวเรียบร้อยแล้ว กางออกดูว่าจะออกทางด้านซ้ายกรือด้านขวาก่อนดี...
การขับมอเตอร์ไซด์ท่องเที่ยวบนเกาะสีชัง ของผมได้เริ่มต้นขึ้นแล้วครับ...
โปรดคอยติดตามไปกับผม...สิครับว่า...นายตำรวจคนนั้น บอกว่า ผีดุ มากนะ...แล้วผมคิดอย่างไร? และทำอย่างไร?











ขอขอบคุณ เพลง "โอ้ทะเล"  Code Indy