ผมยอมรับครับว่า...ขึ้นเขาทัพพระยา เพื่อไปหัดถ่ายภาพ ผมไม่เคยถ่ายภาพ ทิวทัศน์ตอนกลางคืนครับ...ไม่เคยถ่ายแสงสี ยามราตรี...ใช้ขาตั้งกล้องยังไม่เป็น สายลั่นชัตเตอร์ ก็พึ่งเคยใช้ในวันนี้ นี่เอง...
แหละครับ ...วันนี้ถือตำราการถ่ายภาพขึ้นไปดูด้วย แต่พอขึ้นไปเห็นคนเยอะมากเลยไม่กล้ากลางตำรา เพราะอายเค้า ก็เลยใช้แต่โหมด Auto อย่างเดียวเลย แล้วค่อยมาแต่งสี แสง ใน Photo shop เอาอีกที ...ก็ได้แค่นี้แหละครับ
มีแต่ภาพและเสียงเพลงครับ...
วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ซากโบสถ์กลางทะเล...ใกล้พัทยา...ปัจจุบันมีไว้ทำอะไร?
เมื่อหลายปีมาแล้ว...ที่โบสถ์กลางทะเลแห่งนี้ได้เป็นคดีความโด่งดัง ในเรื่องการสร้างลุกล้ำเข้าไปในทะเลซึ่งในครั้งนั้นมีทั้งผู้เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย...ถ้าโบสถ์แห่งนี้สร้างสำเร็จ คงจะเป็นโบสถ์หรือมหาวิหารกลางทะเลที่ใหญ่โต อลังการ อย่างแน่นอน ...ผลของคดีความจะ เป็นอย่างไร...ผมไม่ทราบ แต่วันนี้เรามาดู ซากโบสถ์กลางทะเล แห่งนี้กัน...ว่าเขาเอาไว้ทำอะไร...
โบสถ์กลางทะเลแห่งนี้...สร้างสะพาน ยื่นออกไปในทะเลมุ่งตรงไปหาตัวโบสถ์ ระยะทาง น่าจะถึง กิโลเมตร ความกว้าง ประมาณ 3 เมตร รถ 6 ล้อสามารถวิ่งเข้าไปได้อย่างสบาย...
ผมเดินตามสะพานเข้าไปเรื่อยๆ...บ่ายวันนี้น้ำทะเลลงเลยดูน้ำทะเลจะ ขุ่นๆ...สักนิด ช่วงกลางสะพานที่เดินเข้าไป จะมีศาลาพักร้อนอยู่ 2 ฝั่ง...ที่ฉาบปูนไว้เฉยๆ ยังไม่ผ่านการตกแต่ง ผมมองไปยังโบสถ์ชั้นล่างสุด จะเห็นกลุ่มคนอยู่กลุ่มหนึ่ง และมีรถเก๋งจอดอยู่ข้างๆ ลองเข้าไปดูซิ ว่าเขากำลังจับกลุ่ม ทำอะไรกัน...
พอผมเข้าไปถึง...ก็เห็นโต๊ะวางพวงมาลัยดอกดาวเรือง มากมาย และมองจากมุมนี้จะเห็น หาดพัทยาอยู่ไม่ไกลมากนัก...เอ๊ะ!... แล้วเขาบูชาอะไรกันเหรอ...ถึงมีโต๊ะ วางพวงมาลัยและกระถางธูปอย่างนี้...แล้วผมก็หันไปมองกลุ่มคน ที่ผมมองเข้ามาเมื่อกี่เห็นจับกลุ่มอะไรกันอยู่...และในกลุ่มคนนี้มีพระอยู่ 1 องค์ กำลังทำพิธี มีสวดมนต์ และกล่าวนำอะไรบางอย่าง...
พอผมเข้าไปดูอยู่ใกล้...จึงทราบว่าคนกลุ่มนี้ นำกระดูกญาติที่เสียชีวิต มาลอยอังคาร นั่นเอง
ผมสอบถามน้องๆ ที่มาทำพิธีลอยอังคาร ก็ทราบว่าที่นี่... ทางวัดจะรับทำพิธีลอยอังคารให้ ถ้าใครต้องการ เอากระดูกของญาติที่เสียชีวิตแล้วอยากจะลอยอังคาร ทางวัดนี้ก็จะทำพิธีให้ โดยไปติดต่อกองอำนวยการด้านในวัดก่อน แล้วทางวัดจะจัดพานพวงมาลัย ดอกไม้ธูปเทียนน้ำอบ น้ำหอม ไว้เป็นชุดเรียบร้อย แล้วก็นำมาให้พระที่รออยู่บนโบสถ์กลางทะเลนี้ทำพิธีให้อีกที...โดยไม่ต้องเช่าเรือออกไปลอยอังคารถึงกลางทะเล...ผมยืนดูเขาทำพิธีสักพัก เลยอยากขึ้นไปดูความอลังการของซากโบสถ์ชั้นบนดูซิว่าจะใหญ่โตขนาดไหน...
ผมมองขึ้นไปด้านบน เห็นเสาเหล็กขนาดใหญ่ ขนาด 2 คนโอบเห็นจะได้ ผมว่าน่าจะเป็นแบบไว้รอเทปูนหล่อเป็นเสาอีกที...และยังมีการทำบันได เพื่อเดินขึ้นสู่ชั้นที่สามอีก แต่ยังไม่เสร็จ...
ผมสอบถามหลวงพ่อที่ทำพิธีลอยอังคาร ท่านบอกว่าชั้นบนนี้ เขามาขอถ่ายทำหนังและมิวสิควีดีโอบ่อยครับ
ผมเดินออกมาจากโบสถ์กลางทะเล...และออกมาถึงด้านนอกก็เจอพระรูปหนึ่ง กำลังนั่งเชื่อมเหล็กอยู่ ผมเลยเดินเข้าไปเพื่อจะสอบถามถึงประวัติการสร้าง โบสถ์กลางน้ำแห่งนี้ แต่ก็ไม่ได้คำตอบกระจ่างมากนักท่านรู้แต่ว่า โบสถ์แห่งนี้สร้างมาหลายสิบปีแล้วแต่โดนเรื่องคดีลุกล้ำออกไปในทะเล เหมือนที่เราทราบกัน...คุยไปคุยมาหลวงพ่อเลยเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อน ท่านขับรถเมย์สาย 57 และได้ขับชน 7-8 คันรวด บริเวณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อปี 2537 ชื่อตอนนั้นคือ นายแสวง ทรงงาม โซเฟอร์ตีนผีที่เป็นข่าวใหญ่สมัยนั้น แล้วได้มาบวชจนถึงปัจุบัน...
หลวงพ่อซึ่งเมื่อก่อนชื่อ แสวง ทรงงาม อดีตโวเฟอร์รถเมย์สาย 57
ลืมเล่าให้ฟังครับ พระวัดนี้ จะมีการเรียนวิชาชีพด้วย และรับทำโน้น ทำนี่แล้วแต่ใครจะมาว่าจ้างให้ทำ เราเลยเห็นพระเป็นช่างเหล็ก ช่างไม้ มากมายซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของที่นี่ครับ...
บริเวณกองอำนวยการ...จะเห็นแปลนของโบสถ์กลางน้ำที่ใหญ่โตอลังการติดอยู่ครับ
ถ้าใครต้องการเข้าไปชม...ซากโบสถ์กลางน้ำ...ก่อนถึงพัทยานิดเดียวครับ ที่"จิตตภาวัน วิทยาลัย"
โบสถ์กลางทะเลแห่งนี้...สร้างสะพาน ยื่นออกไปในทะเลมุ่งตรงไปหาตัวโบสถ์ ระยะทาง น่าจะถึง กิโลเมตร ความกว้าง ประมาณ 3 เมตร รถ 6 ล้อสามารถวิ่งเข้าไปได้อย่างสบาย...
ผมเดินตามสะพานเข้าไปเรื่อยๆ...บ่ายวันนี้น้ำทะเลลงเลยดูน้ำทะเลจะ ขุ่นๆ...สักนิด ช่วงกลางสะพานที่เดินเข้าไป จะมีศาลาพักร้อนอยู่ 2 ฝั่ง...ที่ฉาบปูนไว้เฉยๆ ยังไม่ผ่านการตกแต่ง ผมมองไปยังโบสถ์ชั้นล่างสุด จะเห็นกลุ่มคนอยู่กลุ่มหนึ่ง และมีรถเก๋งจอดอยู่ข้างๆ ลองเข้าไปดูซิ ว่าเขากำลังจับกลุ่ม ทำอะไรกัน...
พอผมเข้าไปถึง...ก็เห็นโต๊ะวางพวงมาลัยดอกดาวเรือง มากมาย และมองจากมุมนี้จะเห็น หาดพัทยาอยู่ไม่ไกลมากนัก...เอ๊ะ!... แล้วเขาบูชาอะไรกันเหรอ...ถึงมีโต๊ะ วางพวงมาลัยและกระถางธูปอย่างนี้...แล้วผมก็หันไปมองกลุ่มคน ที่ผมมองเข้ามาเมื่อกี่เห็นจับกลุ่มอะไรกันอยู่...และในกลุ่มคนนี้มีพระอยู่ 1 องค์ กำลังทำพิธี มีสวดมนต์ และกล่าวนำอะไรบางอย่าง...
พอผมเข้าไปดูอยู่ใกล้...จึงทราบว่าคนกลุ่มนี้ นำกระดูกญาติที่เสียชีวิต มาลอยอังคาร นั่นเอง
ผมสอบถามน้องๆ ที่มาทำพิธีลอยอังคาร ก็ทราบว่าที่นี่... ทางวัดจะรับทำพิธีลอยอังคารให้ ถ้าใครต้องการ เอากระดูกของญาติที่เสียชีวิตแล้วอยากจะลอยอังคาร ทางวัดนี้ก็จะทำพิธีให้ โดยไปติดต่อกองอำนวยการด้านในวัดก่อน แล้วทางวัดจะจัดพานพวงมาลัย ดอกไม้ธูปเทียนน้ำอบ น้ำหอม ไว้เป็นชุดเรียบร้อย แล้วก็นำมาให้พระที่รออยู่บนโบสถ์กลางทะเลนี้ทำพิธีให้อีกที...โดยไม่ต้องเช่าเรือออกไปลอยอังคารถึงกลางทะเล...ผมยืนดูเขาทำพิธีสักพัก เลยอยากขึ้นไปดูความอลังการของซากโบสถ์ชั้นบนดูซิว่าจะใหญ่โตขนาดไหน...
ผมมองขึ้นไปด้านบน เห็นเสาเหล็กขนาดใหญ่ ขนาด 2 คนโอบเห็นจะได้ ผมว่าน่าจะเป็นแบบไว้รอเทปูนหล่อเป็นเสาอีกที...และยังมีการทำบันได เพื่อเดินขึ้นสู่ชั้นที่สามอีก แต่ยังไม่เสร็จ...
ผมสอบถามหลวงพ่อที่ทำพิธีลอยอังคาร ท่านบอกว่าชั้นบนนี้ เขามาขอถ่ายทำหนังและมิวสิควีดีโอบ่อยครับ
ผมเดินออกมาจากโบสถ์กลางทะเล...และออกมาถึงด้านนอกก็เจอพระรูปหนึ่ง กำลังนั่งเชื่อมเหล็กอยู่ ผมเลยเดินเข้าไปเพื่อจะสอบถามถึงประวัติการสร้าง โบสถ์กลางน้ำแห่งนี้ แต่ก็ไม่ได้คำตอบกระจ่างมากนักท่านรู้แต่ว่า โบสถ์แห่งนี้สร้างมาหลายสิบปีแล้วแต่โดนเรื่องคดีลุกล้ำออกไปในทะเล เหมือนที่เราทราบกัน...คุยไปคุยมาหลวงพ่อเลยเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อน ท่านขับรถเมย์สาย 57 และได้ขับชน 7-8 คันรวด บริเวณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อปี 2537 ชื่อตอนนั้นคือ นายแสวง ทรงงาม โซเฟอร์ตีนผีที่เป็นข่าวใหญ่สมัยนั้น แล้วได้มาบวชจนถึงปัจุบัน...
หลวงพ่อซึ่งเมื่อก่อนชื่อ แสวง ทรงงาม อดีตโวเฟอร์รถเมย์สาย 57
ลืมเล่าให้ฟังครับ พระวัดนี้ จะมีการเรียนวิชาชีพด้วย และรับทำโน้น ทำนี่แล้วแต่ใครจะมาว่าจ้างให้ทำ เราเลยเห็นพระเป็นช่างเหล็ก ช่างไม้ มากมายซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของที่นี่ครับ...
บริเวณกองอำนวยการ...จะเห็นแปลนของโบสถ์กลางน้ำที่ใหญ่โตอลังการติดอยู่ครับ
ถ้าใครต้องการเข้าไปชม...ซากโบสถ์กลางน้ำ...ก่อนถึงพัทยานิดเดียวครับ ที่"จิตตภาวัน วิทยาลัย"
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)