ผ่านมานานแล้วครับตั้ง 17-18 ปีแล้วหล่ะ...ที่เคยงมหอยจอบ หน้าหาด วงค์อมาตย์
ตอนนั้นลูกสาวยังไม่เกิดเลยครับ... แต่พอนึกขึ้นได้ มันก็เป็นประสบการณ์
ที่ดีเหมือนกันครับ เลยอยากจะเล่าให้ฟังบ้างหน่ะครับ...
เมื่อก่อนน้ำทะเล...ที่พัทยา ระบบนิเวศน์สมบูรณ์กว่านี้เยอะมากครับสัตว์ทะเลบริเวณชายฝั่งมีให้หากินเยอะแยะมากมายครับ ไม่ว่าจะเป็นพวกปลาตามปะการัง ปลาเก๋า ปลากะรัง ปลาข้างปาน ปลาทรายแดง ปลาไอ้โซ๊ะ ปลาหมูสี หรือจะเป็นการเบือปลาไอ้แก้ว(โดยการใช้รากไม้ชนิดหนึ่ง) สัตว์พวกปู พวกหอยก็มีมากครับ ไม่ว่าจะเป็นปูลม พวกหอยก็มีหอยกระปุก หอยเสียบ หอยนางรม และหอยจอบ...(แต่ปัจจุบัน ไม่มีแล้วครับ ถึงมีก็น้อยหายากครับ)
เมื่อก่อนน้ำทะเล...ที่พัทยา ระบบนิเวศน์สมบูรณ์กว่านี้เยอะมากครับสัตว์ทะเลบริเวณชายฝั่งมีให้หากินเยอะแยะมากมายครับ ไม่ว่าจะเป็นพวกปลาตามปะการัง ปลาเก๋า ปลากะรัง ปลาข้างปาน ปลาทรายแดง ปลาไอ้โซ๊ะ ปลาหมูสี หรือจะเป็นการเบือปลาไอ้แก้ว(โดยการใช้รากไม้ชนิดหนึ่ง) สัตว์พวกปู พวกหอยก็มีมากครับ ไม่ว่าจะเป็นปูลม พวกหอยก็มีหอยกระปุก หอยเสียบ หอยนางรม และหอยจอบ...(แต่ปัจจุบัน ไม่มีแล้วครับ ถึงมีก็น้อยหายากครับ)
บริเวณหาด วงศ์อมาตย์ ที่ "ชายสามหยด"งมหอยจอบ
เมื่อก่อนหอยจอบ
บริเวณหน้าหาด วงศ์อมาตย์ จะเยอะมากครับตอนนั้นชอบลงไปเล่นน้ำ
และบริเวณหน้าหาดจะมีหินกลางน้ำห่างจากฝั่งออกไปประมาณ 30-40 เมตรเห็นจะได้ครับ ถ้าน้ำลงจะเดินไปถึง
ในช่วงที่เดินไปก็ไปเหยียบเอาหอยจอบหน่ะสิครับ มันคมมากครับ
มันจะโผล่ขึ้นมาจากทรายประมาณ2-3 นิ้วครับ เลยดึงมันขึ้นมาดู โห...มันฝังลงในทรายอีกเป็นคืบ
เลยเอาไปถามญาติภรรยาดูว่ามันคือหอยอะไร? (เด็กอีสานไม่รู้ครับช่วงนั้น) ญาติแฟนบอกหอยจอบมันกินได้นะ...เอ็นมันผัดกระเพาะ
ผัดฉ่าอร่อยเท่านั้นแหละครับในใจนึกทันทีว่าได้กับแก้มเหล้าอีกแล้วเรา...555 อย่ากระนั้นเลยว่างๆดำหาหอยจอบดีกว่า เพราะวันเสาร์-อาทิตย์
เป็นวันก๊งสุรากับญาติภรรยาอยู่แล้ว
ว่าแล้วผมเลยจัดแจงหาหน้ากากดำน้ำ
หาหลัว(คนชลบุรีเรียกหลัวแต่ผมเรียกเข่งครับ) และห่วงยางลอยน้ำเพื่อเอาไว้วางหลัว
เอาเชือกผูกเอวยาวสัก 3-4 เมตรแล้วอีกด้านหนึ่งนำไปผูกไว้กับห่วงยาง
พอลงถึงน้ำได้ก็ว่ายลอยตัวมองลงไปในน้ำที่ใสแจ๋ว เห็นหอยจอบโผล่ขึ้นมา สักนิ้ว สองนิ้ว
ก็ดำลงไปโยก... โยก... โยก แล้วก็โยก...จนได้ตัวหลุดขึ้นมาจากพื้นทราย
แล้วค่อยโผล่ขึ้นมาโยนหอยไว้ในหลัวครับ ทำอย่างนี้เรื่อยแหละครับ
จนหิวข้าวนั้นแหละถึงจะขึ้น...ฝั่งไปหาข้าวกิน ทีนี้พอได้หอยจอบมากพอแล้ว
ก็นำไปแซะเอาเฉพาะ เอ็นหอยจอบครับ ส่วนเนื้อที่เหมือนเนื้อหอยแมลงภู่
ผมไม่เคยนำมากินสักที บางคนบอกกินไม่ได้
บางคนบอกกินได้เลยตัดปัญหาไม่กินเลยครับ...
หอยจอบครับ(ภาพจากเว็ปไซต์)
เอ็นหอยจอบเมื่อนำมาประกอบอาหาร(ภาพจากเว็ปไซต์)
ดำตั้งนานแกะเอาเอ็นได้นิดเดียวเองครับ ถ้าดำได้ 30 ตัวก็ได้เอ็นหอย 30 ต่อน...เอ้ย...เอ็น ไม่ใช่ต่อน...แฮะ...แฮะ (ภาษาบ้านเกิดแค็ดแร็ดออกมาเลย...) ทีนี้ก็ได้กับแก้มเพิ่มแล้วหล่ะครับ...เอ็นหอยจอบลวกจิ้ม
ผัดฉ่า ผัดกระเพา หรือจะเอาไปเผาก็ได้ตามอัธยาศัยครับ...
หอยจอบเผาครับ(ภาพจากเว็บไซต์)
หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้น หลังนี้แดง แสบและ 3 วันต่อมาก็ลอกเป็นแผ่นๆเลยหล่ะครับ เพราะดำน้ำตากแดดนั่นเอง
มือก็เหมือนกับโดนมีดบาด เพราะโดนเปลือกหอยและเพรียงที่ติดบนตัวหอยบาดเอา
แต่ก็แซบมากครับ...เดี๋ยวนี้ไม่มีหอยจอบให้ดำแล้วคร๊าบบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น