วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

นกเขาชวา...กับต้นมะไฟ...ในงานสังสรรค์

     ผมจำไม่ได้แล้วว่าเป็นเวลาผ่านมากี่วัน...หรือกี่อาทิตย์แล้ว หรืออาจจะเป็นเดือน...ที่มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเข้าไปกวาดใบไม้ในบริเวณสวนหน้าบ้านที่ร่วงหล่นอยู่เกลื่อนกลาดเพราะแรงลม....เมื่อผมเดินกวาดมาถึงต้นมะไฟผมก็ต้องตกใจ...เพราะมีสัตว์ปีกชนิดหนึ่งบิน...พรึบ...ตัดหน้าผมไป และบินไปเกาะอยู่บน กิ่งหว้ามองจ้องหน้าของผมไม่ยอมไปไหนเหมือนผมไปทำอะไรให้มันโกรธแค้น...หรือ ผมไปรบกวนอะไรมันสักอย่าง...ผมแหงนดูเจ้าสัตว์ปีกตัวที่ผมทำให้มันตกใจ และมันเองก็ทำให้ผมตกใจด้วย...ก็เลยรู้ว่ามันเป็น..."นกเขาชวา"...นั้นเอง

    เอ๊ะ...แล้วเจ้านกเขาชวาตัวนี้...มันมาทำอะไร อยู่บนต้นมะไฟ...ดูเหมือนว่ามันจะหวงซะด้วย...จ้องมองผมไม่ยอมไปไหน...หรือมันกำลังมาหาหนอนผีเสื้อ ที่กำลังกัดกินใบมะไฟอยู่...ผมก็สงสัยเหมือนกัน...ก็เลยค้นหาสิ่งที่เจ้า...นกเขาชวา...ตัวนี้หวง  ก็เลยไปเจอกับหญ้าแห้งวางแผ่ไว้กระจุกเล็กๆ แป๊ะ...ไว้บนง่ามของต้นมะไฟ  ซึ่งสูงจากพื้นที่ประมาณ 2 เมตรเห็นจะได้...
   "อ๋อ... เจ้ากำลังจะสร้างรังนั้นเอง...เจ้าคงสร้างยังไม่เสร็จสินะเห็นหญ้ามีอยู่นิดเดียวเอง... เอาหล่ะ...เราไม่รบกวนเจ้าแล้ว...ตามสบายนะ...เจ้าคงคิดแล้วว่าตรงนี้ปลอดภัยสำหรับเจ้า ถึงมาขออาศัยทำรัง..." ผมนึกในใจ แล้วมองขึ้นไปยังต้นหว้า ที่เจ้านกเขาชวาเกาะอยู่ ซึ่งมันกำลังจ้องมองผมด้วยสายตาระห้อย...
  "ว่าแต่...เจ้านกเขาชวา...เจ้ารู้หรือเปล่าว่าบริเวณต้นมะไฟที่เจ้ามาทำรังนั้น...เราจัดเลี้ยงสังสรรค์ อยู่เป็นประจำ แล้วเจ้าจะอยูได้หรือ...เพราะเราต้องเปิดไฟ พูดคุยสนทนากันเสียงดัง หรือในบางครั้งเรายังเผาย่างอะไรกินกันบริเวณนี้ด้วย..."


     ผม...เฝ้าแอบมองดูเจ้านกเขาชวาวางไข่อยู่บนต้นมะไฟ...ตั่งแต่ไข่ใบแรกที่เขาฟักออกมา ที่ผมเห็นว่าเขาฟักได้กี่ใบแล้ว...ก็ต้องรอจังหวะที่เขาออกจากรังบินไปหาอาหาร...แต่ก็น่าเสียดายที่ผมดันไปลบรูปภาพไข่ของเขา...ที่ผมถ่ายไว้ แล้วในตอนหลังก็ไม่มีโอกาสจะได้ถ่ายภาพ ไข่ของเขาอีกเลยเพราะเขานอนฟักไข่ของเขาไม่ยอมไหวติงไปไหนอีกเลย...
    และ...มีอยู่สองสามครั้ง...ที่ผมได้จัดเลี้ยงสังสรรค์ในกลุ่มเพื่อนฝูงและญาติพี่น้องใต้ต้นมะไฟ ที่เจ้านกเขาชวานอนฟักไข่อยู่ และมีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่เราเอา คาราโอเกะ มาร้องกัน...แต่ผมก็ได้บอกและขอเจ้านกเขาทุกครั้งว่า วันนี้มีงานเลี้ยงสังสรรค์นะ...วันที่ผมและเพื่อนเอา คาราโอเกะ มาเปิด เจ้านกเขาชวา ตกใจ บินออกจากรังในตอนกลางคืน...ผมเห็นเขาบินออกจากรังผมมีความกังวลมากว่า...เขาจะทิ้งรังไม่กลับมาอีกแล้ว...
     ภาพด้านบนนี้เป็นภาพเมื่อตอนจัดเลี้ยงสังสรรค์ในหมู่เพื่อนฝูง...จะเห็นต้นมะไฟ ที่อยู่หลังเพื่อนผมที่สวมเสื้อสีขาว และในง่ามที่สองด้านบนขวามือคือจุดที่เจ้านกเขาชวา มาทำรังอยู่แต่ในวันนี้ เขาได้บินออกจากรังผมก็นึกว่าเขาจะทิ้งรังเสียแล้ว...
     แต่...ในตอนเช้า ผมตื่นขึ้นมาดูเขาอีกครั้ง...ผมก็ต้องดีใจที่ยังเห็นเขากลับมานอนฟักไข่อีกครั้ง...หลังจากนั้นผมไม่รบกวนเขาอีกเลย...


     และก่อนวันสงกรานต์นี่เอง...นะจุดนี้ก็มีงานเลี้ยงสังสรรค์ในหมู่ญาติ เกิดขึ้นอีกครั้ง...แต่ในครั้งนี้ผมได้เห็นลูกของเขา...สองตัวได้ออกจากไข่แล้ว และครั้งนี้เจ้านกเขาน้อยก็ไม่ทิ้งลูกไปไหน นอนกกลูกมองดูเราจัดงานเลี้ยงสังสรรค์...เหมือนจะบอกว่า ขอฉลองวันครอบครัวด้วยนะ...

    จากที่ผมสังเกตุ...เจ้านกเขาชวาหลายๆอย่าง...ทำให้ผมได้รู้ว่า เขาทำรังไม่ใหญ่โต เหมือนนกชนิดอื่นที่ผมเห็นมา...เขาแค่เอาหญ้าไม่กี่กิ่งมาวางพาด พาดกันก็ใช้ได้แล้ว...และอีกอย่างเขาจะเป็นนกที่นิ่งมาก ขนาดเราเข้าไปใกล้ๆ ถ้าเขามีลูกอยู่เขาก็จะไม่บินไปไหน...แต่จะจ้องมองเราตาไม่กระพริบ...ลูกของเจ้านกเขาชวา จะไม่ร้องเสียงดังหรือแทบไม่มีเสียงเลยเวลาที่แม่ป้อนอาหาร

ผม...เห็นเจ้านกเขาชวาป้อนอาหารลูก โดยให้ลูกล้วงเข้าไปในคอเพื่อไปคาบเอาอาหาร ซึ่งจะต่างจากพวกชนิดอื่นที่ผมเห็น...คือต้องคาบอาหารอยู่ที่ปากและให้ลูกจิกได้กินได้เลย...พอป้อนเสร็จได้ไม่นานเขาก็บินออกจากรังเพื่อไปหาอาหารมาให้ลูกน้อยอีก...และได้ทิ้งลูกน้อยอยู่ในรังเพียงลำพังสองตัว...เจ้านกเขาชวา...ขยันออกหาอาหารมาให้ลูกทุกวันจน ลูกๆเติบโตแข็งแรงข้นทุกวัน...และพร้อมที่จะบินออกจากรังทุกเมื่อ...ถ้าได้ยินเสียงแม่เรียกอยู่ไกลๆ


   เจ้าลูกนกเขาชวาทั้งสอง...ยืนๆ...นอนๆ...บ้างก็ไซร้ขนรอแม่กลับมาพร้อมอาหารอีกครั้ง...ด้วยใจกระวนกระวายเพราะ...ได้ยินเสียงฟ้าร้องครืน...ครืน...อยู่ด้านบน เขาคงติดว่านั้นเสียงอะไรนะทำไมดังเหลือเกิน...แล้วทำไมแม่ยังไม่กลับมาซะที... ฝนเริ่มที่จะลงเม็ดแต่ไม่หนามากนัก แต่ฟ้าก็ยังส่งเสียงร้องทำให้ลูกนกตกใจสดุ้ง...เมื่อได้ยิน...ไม่นานก็เห็นแม่นกเขาบินกลับมาสู่รัง...
 
     ฝนเรื่มทำท่าจะตกหนักซะแล้วสิ...เพราะเสียงฟ้าคำรามใกล้เข้ามาทุกที่...แม่นกเขาชวาทำเสียงต่ำๆในลำคอเพื่อเรียกลูกๆเข้าไปซุกใต้ปีก...แต่ด้วยความที่ลูกโตเร็วมากปีกไม่สามารถที่ห่อหุ้มลูกน้อยได้อีกแล้ว...ไม่นานฝนก็เริ่มลงเม็ดหนาขึ้นเรื่อยๆ...

       แม่นกหันรีหันขวาง...ทำขนพอง...ขยับตัวเข้ามาใกล้ลูกเพื่อจะปกป้องลูกน้อยจากเม็ดฝนที่เริ่มเทลงมาเรื่อยๆ

 
แม่นกเริ่มที่จะขยับเข้ามาใกล้ๆลูกน้อยเพื่อใช้ขนของตัวเองปกป้องจากเม็ดฝนที่เริ่มตกหนักจนใบมะไฟเริ่มจะเปียกน้ำฝนแล้ว...





 
   แล้วฝนก็ตกลงมาอย่างหนักไม่ลืมหูลืมตา...จนทำให้นกเขาชวาสามแม่ลูกเปียกปอน ไปตามๆกัน...นี้คงเป็ประการณ์ครั้งแรกของลูกนกที่ได้สัมผัสกับฝน...แล้วพอฝนหยุดตกก็ทำหน้า แบบ งง...งง...ว่าเกิดอะไขึ้นเนี้ย...
   เช้าวันหนึ่ง...ก่อนที่ผมจะออกไปทำธุระ...ข้านอก ก็ได้ไปแวะเยี่ยมเยียน...ครอบครัวนกเขาเป็นปกติ...เช้านี้ เจอลูกๆ ทั้งสองตัวกำลังปีนป่ายใบมะไฟทำท่าจะกางปีกบิน...เมื่อได้ยินเสียงแม่ร้องเรียกรัว...รัว...อยู่บนสายไฟหน้าบ้าน...

   ผมยืนดูเจ้าลูกนก...เขาชวาทั้งสองตัว...และยังนึกอยู่ในใจเลยว่า อีกสักวันสองวันเจ้าทั้งสอง ก็คงจะบินออกไปหากินกับแม่ของเจ้าได้แล้ว...และก็ยังคิดว่า จะมาคอยดูเจ้าทั้งสองบินออกสู่โลกกว้าง...และจะบันทึกภาพของเจ้าในขณะกำลังจะบินออกจากรัง...วันนี้ขอออกไปธุระก่อนนะเย็นๆจะกลับมา...

   
   แต่พอกลับมาจากทำธุระในตอนเย็น...ผมก็ไม่ลืมที่จะแวะเข้าไปทักทาย...ครอบครัวนกเขาชวา...ผมก็ต้องผิดหวังเพราะเจอแต่รังที่ว่างเปล่า..."เจ้าไปโดยไม่ได้กล่าวร่ำลา...เราเลยนะ"...แล้วเจ้าจะกลับมาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์...กับพวกเราอีกหรือเปล่า...แล้วเราจะคอย....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น